Ads 468x60px

Blogroll

Blogger templates

Blogger news

About Me

Qi08-Wireless Power Bank ชุดชาร์จไร้สาย 3 IN 1

ไปที่ไหนๆก็ชาร์จได้,แถมสะดวกสะบายไม่ต้องกลัวแบตหมด และชาร์จแบบไร้สายด้วย ,มีแบตเตอรี่ polymer lithium ขนาด 5000 Mah.ภายในสำรองไฟได้ในตัวและชาร์จผ่าน Port Mini USBได้ สำหรับ iPhone 5/4/ 4S, Samsung Galaxy S3/S4/Note2, Nokia Lumia 920 ,LG Nexus4.และอีกหลายรุ่น

Qi06-Wireless Power Bank ชุดชาร์จไร้สาย 2 IN 1

เป็นอุปกรณ์ชาร์จไร้สายอีกรุ่นที่มีตัวสำรองไฟมากถึง 5460 Mah.ชาร์จได้ยาวนานกว่าสำหรับ iPhone 5/4/ 4S, Galaxy S3/S4/Note2, Nokia Lumia 920 ,LG Nexus4

Qi02 ชุดชาร์จไร้สาย ราคาถูก

จัดเป็นอุปกรณ์ชาร์จไร้สายอีกชุดสำหรับ iPhone 5/4/ 4S, Galaxy S3/S4/Note2, Nokia Lumia 920,,LG Nexus4 เน้นการชาร์จแบบไร้สายอย่าเดียวและสามารถใช้ร่วมกับ Port USB Computer ทั่วๆไปได้สะดวกสะบายไม่ต้องหาปลั๊กเสียบให้ยุ่งยาก

ชาร์จไร้สายอุปกรณ์เสริม Receiver ราคาถูก

Receiver Case iPhone 5/4/ 4S, Receiver Card Galaxy S3/S4/Note2 เมื่อพูดถึง iPhone ไม่มีใครที่ไม่รู้จักเพราะว่าเป็นสินค้าที่จัดได้ว่าเป็นหนึ่งในดวงใจของทุกคน ซึ่งจัดว่าเป็นหนึ่งมาตลอดด้านสินค้า IT ประเภทโทรศัพท์มือถือแต่กับดูด้อยไปสำหรับเทคโนโลยีชาร์จแบบไร้สายเมื่อเปลี่ยบเทียบกับ Nokia Lumia ที่มาพร้อมกับระบบชาร์จแบบไร้สายแต่สำหรับวันนี้ iPhone ดูดีอีกครั้งเมื่อมีผู้ผลิตอุปกรณ์ที่ช่วยให้ iPhone สามารถชาร์จแบบไร้สายได้แล้ว

ที่ชาร์จไร้สายมีเซ็นเซอร์รับรู้อย่างชาญฉลาด

มีไฟแสดงบอกสถานะเมื่อมีการใช้งาน ในขณะชาร์จไฟสีเขียวจะติดและเมื่อชาร์จเต็มไฟสีเขียวจะดับหมดปัญหาเรื่องชาร์จไฟเกิน และยังช่วยประหยัดพลังงานด้วย เพราะสามารถชาร์จได้เร็วกว่าการชาร์จแบบทั่วๆไปถึง 35% และหมดปัญหาเรื่องสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่เกิดขึ้นในขณะชาร์จทำให้เป็นผลดีต่อมือถือของคุณและตัวของคุณเอง

มาตรฐานรับรองสินค้า

มาตรฐานสินค้า CE, FCC, UL, RoHs

CE มาจากคำในภาษาอังกฤษ คือ “European Conformity” เดิมทีใช้เครื่องหมาย EC แต่ภายหลังได้เปลี่ยนมาเป็นเครื่องหมาย CE อย่างเป็นทางการเมื่อปี 2536 เครื่องหมาย CE ที่ปรากฏอยู่บนสินค้า เป็นเครื่องหมายที่แสดงการรับรองจากผู้ผลิต (Manufacturer’s Declaration) ว่าสินค้านั้น มีคุณสมบัติตามข้อกำหนดด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของสหภาพยุโรป การมีเครื่องหมาย CE กำกับบนสินค้าจะทำให้สินค้านั้นสามารถวางจำหน่าย และสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างเสรีในเขตเศรษฐกิจยุโรป หรือ European Economic Area (EEA) ยกเว้นประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยสมาชิกแต่ละประเทศจะดำเนินการออกกฎหมายภายในประเทศให้สอดคล้องกับกฎระเบียบของสหภาพยุโรป หรือ EC Directives ที่ เกี่ยวข้องกับการใช้เครื่องหมาย CE





FCC ย่อมาจาก Federal Communications Commission (คณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสาร) องค์กรนี้เป็นตัวแทนรัฐบาลสหรัฐฯ ที่วางระเบียบให้แก่อุปกรณ์ประเภทวิทยุ โทรทัศน์ ผู้ให้บริการการสื่อสารระหว่างรัฐ และงานให้บริการระหว่างประเทศที่อยู่ในสหรัฐฯ รวมทั้งคอมพิวเตอร์ที่ผลิตสัญญาณความถี่วิทยุ ซึ่งจะไปรบกวนการส่งกระจายทางธุรกิจ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต้องได้รับการรับรองจาก FCC ก่อนที่จะนำไปขายในสหรัฐฯ เพื่อให้ตรงกับข้อจำกัดทางกฎหมายเกี่ยวกับการเป็นตัวนำและการกระจายคลื่นวิทยุ FCC จะแบ่งเครื่องคอมพิวเตอร์เป็น 2 ประเภท คือ Class A (ใช้ในงานอุตสาหกรรมหรือด้านธุรกิจ) และ Class B (ใช้งานในบ้าน)



UL ห้องปฏิบัติการที่รับประกัน หรือ Underwriters' Laboratories Inc. เป็นองค์กรอิสระที่ไม่แสวงหาผลกำไร และรับรองความปลอดภัยของสินค้า ได้เริ่มทดสอบสินค้าและเขียนมาตรฐานความปลอดภัยกว่า 100 ปีตั้งแต่ปี 1894
UL ได้ประเมินสินค้า, ชิ้นส่วน, วัสดุ และระบบ โดยมีมาตรฐานไม่น้อยกว่า 1200 มาตรฐาน ภารกิจของ UL คือการสนับสนุนให้มีความเป็นอยู่และสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัยโดยการใช้วิทยาศาสตร์ด้านความปลอดภัยและวิศวกรรมเกี่ยวกับความปลอดภัย ซึ่งครอบคุม ผลิตภัณฑ์ เกี่ยวกับอุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องมือทางการแพทย์ เครื่องมือป้องกันอัคคีภัย ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ยาง สายไฟฟ้า พลาสติก ซึ่งมีศูนย์ตรวจสอบ 127 แห่ง , มีห้องปฏิบัติการ 66 แห่ง , อุปกรณ์ในการทดสอบและรับรอง และเจ้าหน้าที่จำนวน 6,200 คน




RoHS ย่อมาจาก Restriction of Hazardous Substances เป็นข้อกำหนดที่ 2002/95/EC ของสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งเป็นมาตรฐานเพื่อสิ่งแวดล้อม ว่าด้วยเรื่องของการใช้สารที่เป็นอันตรายในอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งหมายความรวมถึงเครื่องใช้ทุกชนิด ที่ต้องอาศัยไฟฟ้าในการทำงาน เช่น โทรทัศน์ เตาอบไมโครเวฟ วิทยุ เป็นต้น ซึ่งหมายความว่า ชิ้นส่วนทุกอย่างที่ประกอบเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้านั้น ตั้งแต่แผงวงจร อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงสายไฟ จะต้องผ่านตามข้อกำหนดดังกล่าว ซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี2006 แต่ในประเทศอื่นๆ เช่น สหรัฐอมริกา ญี่ปุ่น จีน เกาหลี ก็เริ่มที่จะกำหนดข้อบังคับในลักษณะนี้เช่นกัน ในอนาคต ข้อกำหนดนี้ก็คงจะแผ่ขยายครอบคลุมไปทั่วโลก โดยสารที่จำกัดปริมาณในปัจจุบัน กำหนดไว้ 6 ชนิด ดังนี้

1.ตะกั่ว (Pb) ไม่เกิน 0.1% โดยน้ำหนัก
2.ปรอท (Hg) ไม่เกิน 0.1% โดยน้ำหนัก
3.แคดเมียม (Cd) ไม่เกิน 0.01% โดยน้ำหนัก
4.เฮกซะวาเลนท์ (Cr-VI) ไม่เกิน 0.1% โดยน้ำหนัก
5.โพลีโบรมิเนต ไบเฟนนิลส์ (PBB) ไม่เกิน 0.1% โดยน้ำหนัก
6.โพลีโบรมิเนต ไดเฟนนิล อีเธอร์ (PBDE) ไม่เกิน 0.1% โดยน้ำหนัก

แต่ก็มีข้อยกเว้นสำหรับอุปกรณ์บางอย่าง ที่ยังไม่สามารถใช้สารอื่นมาทดแทนได้ หรือสารที่ใช้ทดแทน มีอันตรายมากกว่า เช่น หลอดฟลูออเรสเซนต์ ซึ่งมีสารปรอทเป็นส่วนประกอบ ตะกั่วในเหล็กอัลลอย นอกจากนี้ เครื่องมือด้านการแพทย์ และการทหาร ก็อยู่ในข้อยกเว้น


เลือกใช้อุปกรณ์ Pb-Free
สำหรับนักอิเล็กทรอนิกส์ ที่เป็นผู้ออกแบบวงจร สามารถเลือกใช้อุปกรณ์ที่เป็น Pb-Free หรือ RoHS ได้ โดยผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เกือบทุกยี่ห้อ มักจะผลิตอุปกรณ์รุ่นที่เป็น Pb-Free ออกมาทดแทนอุปกรณ์รุ่นเก่า โดยอาจจะเพิ่มตัวอักษรเช่น ‘G’ เข้าไปใน Part Number แต่ยังคงมีมีฟังก์ชันการทำงานเหมือนกัน สามารถใช้แทนกันได้ สิ่งที่แตกต่างจากเดิมก็คือ อุปกรณ์เหล่านี้จะสามารถทนความร้อนสูงที่ใช้ในการะบวนการประกอบแผงวงจรได้ เนื่องจากสารที่ใช้เชื่อม (ตะกั่ว) ที่เป็นแบบ Pb-Free นี้ จะมีจุดหลอมเหลวที่สูงขึ้นกว่าแบบที่ไม่เป็น Pb-Free แต่สำหรับท่านที่ซื้ออุปกรณ์ที่เป็น Pb-Free มาแล้ว แต่ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องผ่านข้อกำหนดดังกล่าว สามารถบัดกรีด้วยตะกั่วแบบธรรมดาได้ ซึ่งจะบัดกรีง่าย และสวยงามกว่า เนื่องจากตะกั่วธรรมดาจะละลายง่าย และมีความเงางามมากกว่าตะกั่วแบบ Pb-Fre

ข้อความนี้อ้างอิงมาจากเวปไซส์ http://charoensap.blogspot.com/2011/10/ce-fcc-ul-rohs.html